เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสานได้จัด โครงการค่ายเยาวชนปกป้องแม่น้ำโขง ณ ชายตาริมโขงรีสอร์ท บ้านภูเขาทอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย โดยมีเยาวชนเข้าร่วมจำนวน 39 คน ประกอบด้วย กลุ่มเยาวชนบ้านกลาง เยาวชนกลุ่มประมงพื้นบ้านเชียงคาน กลุ่มเยาวชนบ้านปากมั้ง กลุ่มเยาวชนบ้านคกเว้า และกลุ่มเยาวชนจากตัวเมืองหนองคาย
นายสุวิทย์ กุหลาบวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขง กล่าวว่า เป้าหมายของการจัดค่ายกิจกรรมเยาวชนปกป้องแม่น้ำโขงก็เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนลุ่มน้ำโขงและสร้างการเรียนรู้ระบบนิเวศแม่น้ำโขง รวมทั้งการว่างแผนกิจกรรมที่จะงานร่วมกัน โดยได้จัดให้เยาวชนได้เรียนรู้ระบบนิเวศและความสำคัญของแม่น้ำโขงในรูปแบบการจัดกิจกรรมหลัก ๆ คือ การได้ลงพื้นที่เรียนรู้นิเวศป่าชุมชนบ้านหนอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเป็นผืนป่าที่อยู่ในเขตหมู่บ้านที่ติดกับแม่น้ำโขง การล่องเรือสำรวจการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ โดยมีชาวบ้านเป็นคนให้ข้อมูล และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องความหลากหลายของระบบนิเวศแม่น้ำโขงและการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขง โดยนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม และให้เด็ก ๆ ได้วางออกแบบกิจกรรมร่วมกันต่อ อยากให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้ปัญหาและสถานการณ์การพัฒนาที่กำลังเกิดขึ้นกับหมู่บ้านของพวกเรา
นางสาววิสสุตา อุปรีที อายุ 16 ปี เยาวชน บ้านปากมั้ง ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย กล่าวว่า สิ่งที่ได้ในการออกค่ายครั้งนี้คือได้รับทราบว่า จะมีการสร้างเขื่อนปากชม ที่บริเวณบ้านคกเว้า ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย ซึ่งจะอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 7 กิโลเมตร และจะทำให้น้ำท่วมบ้าน ดังนั้นเมื่อทราบข้อมูลแล้วจะขยายผลให้เพื่อนๆทราบและจะต้องคัดค้านเพราะจะได้รับผลกระทบแน่นอน สิ่งแรกที่จะทำคือการสำรวจระบบนิเวศและทำความรู้จักกับแม่น้ำโขงบริเวณบ้านตัวเองก่อน
นายณัฐกิตติ ตันแพง อายุ 20 ปี เยาวชน บ้านเชียงคาน ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย กล่าวว่า ครอบครัวมีอาชีพประมงหาปลาในแม่น้ำโขงนำมาขายและเป็นอาหาร รับจ้างทั่วไป แม่จะปลูกผักปลอดสารพิษขายในตลาดเชียงคาน การเข้าค่ายครั้งนี้ได้เพื่อนจากพื้นที่อื่น และทราบว่าตอนนี้จะมีการสร้างเขื่อนสานะคาม ในประเทศลาว ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10-15 กิโลเมตร คงต้องได้รับผลกระทบแน่นอน ในเรื่องการหาปลา รายได้จะลดลง ที่ผ่านมามีการสร้างเขื่อนไชยะบุรี ในประเทศลาว แม่น้ำขึ้นลงไม่เป็นธรรมชาติทำให้หาปลาได้น้อย บางวัดหาไม่ได้เลย
“รู้สึกดี ชอบที่ได้เข้าค่ายครั้งนี้ เพราะได้มาใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน ๆ ที่อยู่ในลุ่มน้ำโขงเหมือนกัน เหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกันและได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะได้เรียนรู้ระบบนิเวศแม่น้ำโขงที่มีความแตกต่างจากที่บ้านเรา” นายณัฐกิตติ กล่าว
นางพรพิมล จันหอม อายุ 39 ปี ตัวแทนชาวบ้าน บ้านคกเว้า ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย กล่าวว่า สำหรับตนเองนั้นเป็นผู้ปกครองเยาวชนที่พามาเข้าค่ายครั้งนี้ 2 คน เพราะเห็นความสำคัญในการสร้างการรับรู้ปัญหาการพัฒนาในแม่น้ำโขง เพราะเขื่อนปากชมจะสร้างบริเวณบ้านตัวเองและตัวเองก็จะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดย 10 กว่าปีก่อน ตนเองได้ทำการคัดค้านการสร้างเขื่อนปากชมมาแล้วและก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำโขง และยืนยันว่าจะคัดค้านเขื่อนปากชมจนถึงที่สุด