จดหมายเรียกร้องธนาคารผู้ให้สินเชื่อเขื่อนไซยะบุรี ติดตามบริษัทให้เปิดเผยความคืบหน้ารายงานมาตรการลดผลกระทบด้านการประมง การฟื้นฟูชีวิตและเศรษฐกิจของผู้อพยพโยกย้ายและแผนบรรเทาภาวะฉุกเฉินจากการบริหารจัดการเขื่อนไซยะบุรี

วันที่ 19 สิงหาคม 2567 กลุ่มภาคประชาสังคมโดยคณะทำงานติดตามความรับผิดชอบการลงทุนข้ามพรมแดน(ETOs Watch Coalition) ส่งจดหมายหมายเรียกร้องให้ธนาคารผู้ให้กู้กรณีเขื่อนไซยะบุรีทั้ง 6 แห่ง คือ ธนาคารไทยพานิชย์(SCB), ธนาคารกรุงไทย(KTB), ธนาคารกรุงเทพฯ(BBL),ธนาคารกสิกรไทย(KBANK),ธนาคารทิศโก้(Tisco)และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(Exim) โดยเนื้อหาสำคัญคือ “ขอให้ทางธนาคารในฐานะผู้ให้สินเชื่อแก่โครงการเขื่อนไซยะบุรี ติดตามบริษัทซีเคพาวเวอร์ให้เปิดเผยรายงานมาตรการลดผลกระทบสะสมเกี่ยวกับตะกอนและทางปลาผ่าน ความสมบูรณ์ด้านการประมง สถานภาพการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่แปลงอพยพโยกย้ายจากโครงการและแผนบรรเทาภาวะฉุกเฉินจากการบริหารจัดการเขื่อนไซยะบุรีต่อประชาชนท้ายน้ำใน 7 จังหวัดประเทศไทย เป็นไปการประกาศนโยบายรับหลักการสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน(UNGPs-Business and Human Rights)รวมถึงการลงนามรับหลักการแนวทางการดำเนินกิจการธนาคารยั่งยืนในด้านการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Sustainable Banking Guidelines – Responsible Lending)ของสมาคมธนาคารไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อปี 2562” ของธนาคารผู้ให้สินเชื่อแก่โครงการเขื่อนไซยะบุรีที่ได้ประกาศในทางสาธารณะ

More to explorer

สำรวจพื้นที่ 2 โครงการยักษ์เขื่อนกั้นแม่น้ำโขง พบการก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางคืบหน้าไปมาก-กั้นลำน้ำโขงแล้วเกือบครึ่ง-อพยพชาวบ้านแล้วบางส่วน ชาวบ้านน้ำตาตกวัด-พระพุทธรูปเก่าต้องอยู่ใต้น้ำ ขณะที่เขื่อนปากแบงยังไม่ได้ลงมือก่อสร้างใดๆ นักอนุรักษ์-นักกฎหมายจี้ตอบคำถามผลกระทบข้ามแดน